เชื่อเถอะว่า ใครๆก็ไม่อยากมีปัญหาส้นเท้าแตก แต่ถ้ามันเกิดขึ้นกับคุณล่ะ เราต้องทำยังไง
รู้หรือไม่ค่ะว่า บริเวณเท้ามีต่อมไขมันน้อยกว่าส่วนอื่นๆ ในร่างกาย ทำให้เรามีผิวแห้งหยาบกร้านหรือแตกบนเท้าตามมา นั่นเป็นเพราะหลายสาเหตุ
ปัจจัยในชีวิตประจำวันต่อไปนี้อาจทำให้ผิวแห้งที่เท้า:
- ขาดความชุ่มชื้น ผิวที่แห้งแตกและลอกเป็นขุยโดยเฉพาะบริเวณส้นเท้าและด้านเดียว
- การระคายเคือง การยืนเป็นเวลานานเกินไป
- สวมรองเท้าที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดแรงกดอย่างต่อเนื่องในบริเวณที่เฉพาะเจาะจงของเท้าหรือทำให้เกิดการเสียดสีของผิวหนัง เป็นผลให้พื้นที่ของเท้าเหล่านี้อาจแห้งหรือแตก
- ความร้อนและความชื้น เวลาสวมรองเท้าปิดเช่นรองเท้าผ้าใบและรองเท้าบูทสร้างสภาพแวดล้อมที่ร้อนและชื้นมาก ความร้อนและความชื้นดึงความชื้นจากผิวซึ่งอาจนำไปสู่พื้นที่แห้งหนาหรือแตกของส้นเท้า
- สบู่ สบู่และน้ำยาทำความสะอาดร่างกายที่มีสารเคมีรุนแรงหรือสารระคายเคืองสามารถดึงความชุ่มชื้นออกจากผิวหนัง การไม่ล้างสบู่ส่วนเกินออกจากเท้าอาจทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้ได้
- อายุมากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปผิวหนังจะสูญเสียความสามารถในการกักเก็บน้ำให้กลายเป็นทินเนอร์และอวบอ้วนน้อยลง ผู้สูงอายุอาจมีโอกาสสัมผัสผิวแห้งมากขึ้นเนื่องจากกระบวนการชราตามธรรมชาติ
- ยา ยาบางชนิดรวมถึงยาขับปัสสาวะสามารถทำให้ผิวแห้งที่เท้า
แต่เมื่อเลี่ยงไม่ได้ หรือเกิดปัญหาขึ้น ยังไงก็ย่อมมีทางออก
ครั้งนี้แอดขอมาเล่าจากประสบการณ์ตรงนะคะ บอกเลยว่าส้นเท้าแตกแบบสาหัสมาก หนักแบบเดินแล้วแสบตรงรอยแตกอ่ะคะ
เลยเริ่มสังเกตุจากตัวเอง โดยดูพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน อะไรที่ทำให้ส้นเท้าฉันแตกหนักเบอร์นี้
ต้องยอมรับเป็นคนดื่มน้ำน้อย และใส่รองเท้าที่มีพื้นค่อนข้างแข็ง เวลาเดินในบ้าน ก็ไม่ยอมใส่รองเท้าแตะในบ้าน ออกนอกบ้านก็เดินเท้าเปล่า หลายๆพฤติกรรมส่งผลให้ส้นเท้าตัวเองแตกและหยาบกร้าน ทั้งแต่ที่ตัวเองยังเป็นสาวๆ อายุตอนนั้นก็ยังไม่ถึง 20 ปีเลย
เครียดมาก และก็อายเวลาคนเห็นส้นเท้า ต้องหลบต้องซ่อนกันเลยทีเดียว ตอนนั้นใครบอกว่าอะไรใช้ดีซื้อทุกอย่าง ใช้วิธีหลายวิธีช่วยทุกวีถีทาง ไม่ว่าจะเป็น ทาครีม ทายาที่หลายๆที่อวดอ้างสรรพคุณ ก็ยังไม่หาย ไม่ทันใจเลยบอกตรงๆ
จนมีวันหนึ่งค่ะ ที่ได้ไปร้านนวดฝ่าเท้าที่เมืองจีนค่ะ คนนวดได้มาสัมผัส จับๆส้นเท้า(ที่แตกกร้าน) นางก็รีบแนะนำเลยว่าต้องตัดหนังออก ซึ่งเราก็ไม่เคยตัดหนัง แต่เราก็เห็นว่านางหวังดี ก็เลยลองทำดูค่ะ
ไม่น่าเชื่อ.....เป็นวิธีที่เห็นผลเร็วสุดเลยจร้า แถมราคาเบากว่าครีมรักษาส้นเท้าบางยี้ห้อ (ไม่ระบุเนอะ เรารู้กัน)
การตัดหนังที่หยาบกร้าน หรือจะเรียกว่า ขูดหนังก็ได้นะคะ (ย้ำนะคะ ไม่ใช่การขัดส้นเท้าแบบที่เราขัดเวลาอาบน้ำนะจ๊ะ)
จำได้ว่า ตอนที่อาการหนักๆ ต้องโชว์ส้นเท้าให้คนขูดหนัง...ค่อนข้างอายเอามากๆเลย แถมแซ่วเราอีกว่าทำไมส้นเท้าแตกขนาดนี้ เค้าก็ทักทันทีว่าเนี่ย รองเท้าที่ใส่มาพื้นแข็งนะ อย่าใส่อีกต่อไป สอนมาเป็นชุด....เลย
ไอ้เราก็แสดงอาการสำนึกผิดแทบไม่ทัน บอกเลยว่าหนังที่หนาๆกร้านๆ ก็ทยอยเบาบางลง ขูดหนังติดกัน 2-3 ครั้งในช่วงนั้น เห็นผลเร็วมาก จะบอกว่าสังเกตได้ตั้งแต่ครั้งแรกเลยว่าผิวใสขึ้น อมชมพูซะงั้น (มีใครเคยใช้วีธีเดียวกันกับแอดมินบ้างไหม แชร์มาได้นะคะ)
แล้วหลังจากนั้นก็เปลี่ยนรองเท้ารุ่นพื้นนิ่มๆทันที ลาก่อนจร้า...รองเท้าพื้นแข็ง+
หลังจากนั้นก็ทยอยบำรุงทาครีม ทาโลชั่น และก็หมั่นสครับและทำความสะอาดส้นเท้าบ่อยๆด้วยไม้ขัดส้นเท้า อาการส้นเท้าแตกก็ไม่กลับมาอีกเลย (หมายถึงอาการแตกแบบสาหัสนะคะ)
ทุกวันนี้ถ้ามีโอกาสเวลาไปร้านนวดเท้า ก็จะขูดหนังเท้าไปด้วยเลย เพื่อให้ผิวหนังสร้างเซลล์ใหม่ให้กับเราไงละค่ะ
ใครจะนำเทคนิคนี้ไปใช้ดูก็ได้นะคะ เพราะหลังจากที่ตัวเองอาการดีขึ้นก็แนะนำหลายๆท่านให้ไปทำแบบเดียวกัน ก็ได้ผลดีเช่นเดียวกันคะ
หากคุณมีเทคนิคดีๆในการดูแลส้นเท้าก็มาแบ่งปัน มาคอมเม้นท์ได้นะคะ เพื่อแอดมินได้เก็บไว้แนะนำและนำไปใช้ดูบ้าง
#ส้นเท้าแตก
FcKiBRynXwZsWej
chlZtwryR